วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

                     ชนิดของวัวโคนม

ในการทำโครงงานพัฒนาเว็บไซต์ เรื่องโคนม  ผู้ศึกษาได้รวบรวมแนวคิดทฤษฎีและหลักการต่างๆ จากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
               
  พันธุ์โคนม โคนมแบ่งออกเป็น  2  ประเภทใหญ่  ๆ  คือ
1.พันธุ์โคนมที่มีถิ่นกำเนิดในแถบร้อน เช่น พันธุ์เรดซินดี้, ซาฮิวาลเป็นต้น จะสังเกตได้ง่ายคือ  โคนมพวกนี้ จะมีโหนกหลังใหญ่และทนร้อนได้ดีแต่ให้นมได้ไม่มากนัก
 2.พันธุ์โคนมที่มีถิ่นกำเนิดในเขตหนาว หรือเรียกโคยุโรป มีอยู่ด้วยกันหลายพันธุ์ซึ่งโคยุโรปนี้สังเกตได้ ง่ายคือไม่มีโหนกที่หลัง  คือจะเห็นแนวสันหลังตรง  มักไม่ค่อยทนต่ออากาศร้อนพันธุ์โคที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทย
 2.1.โคนมพันธุ์ทีเอ็มแซด (TMZ)
เป็นโคนมพันธุ์ผสมที่เกิดขึ้นจากการผสมพันธุ์ระหว่างพ่อพันธุ์โฮลสไตน์ฟรีเชียนพันธุ์แท้กับแม่พันธุ์ซึ่งมี สายเลือดอเมริกันบราห์มันสูง  มีสายเลือดโฮลสไตน์ฟรีเชี่ยน75%กรมปศุสัตว์ปรับปรุงพันธุ์นี้ให้เป็นพันธุ์โคนมหลักของประเทศ เหมาะสำหรับเกษตรกรที่มีฟาร์มขนาดเล็กหรือเกษตรกรที่เริ่มเลี้ยงโคนม
 
 2.2.โคนมพันธุ์ไทยฟรีเชี่ยน (TF) 
           เป็นโคนมพันธุ์ผสมที่มีสายเลือดโคนมพันธุ์โฮลสไตน์ฟรีเชี่ยนหรือขาว-ดำ มากกว่า 75% พันธุ์นี้เหมาะสำหรับเกษตรกรที่มีฟาร์มขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ หรือเกษตรกรที่มีการจัดการ การให้อาหารที่ดี
 หลักการเลือกซื้อโคนม
                ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรจะเริ่มต้นเลี้ยงโคนมด้วยวิธีใดก็ตามควรจะมีหลักในการพิจารณาเลือกซื้อ    โคนมบ้าง เพื่อให้ได้สัตว์ ที่มีคุณภาพดี ซึ่งหลักในการพิจารณาเลือกซื้อโคนมดังกล่าวมีอยู่หลายประการอาจกล่าวแนะนำพอสังเขปได้ดังนี้  
1. ไม่ว่าจะเลือกซื้อโคขนาดใดก็ตามต้องสอบถามประวัติ ซึ่งหมายถึง สายพันธุ์และความเป็นมาอย่างน้อยพอสังเขป
2.  ถ้าเป็นโครีดนมควรจะเป็นแม่โคที่ให้ลูกตัวที่ 1 ถึง  ตัวที่ 4               
3.  ถ้าเป็นแม่โคที่รีดนมมาหลายเดือนควรจะตั้งท้องด้วย
4.  ถ้าเป็นโคสาวหรือแม่โคนมแห้งก็ควรจะเป็นแม่โคที่ตั้งท้องด้วยเพื่อเป็นการย่นระยะเวลาจะได้รีดนมเร็วขึ้น
5.  ควรเป็นโคที่มีประวัติการให้นมดีพอใช้และต้องปลอดจากโรคแท้งติดต่อและ           โรควัณโรค

          การเลี้ยงและดูแลโคนม
 แม่โค จะให้นมหรือมีน้ำนมให้รีดก็ต่อเมื่อหลังจากคลอดลูกในแต่ละครั้ง   ซึ่งจะให้นมเป็นระยะยาวสั้นมากน้อยต่างกัน ขึ้นกับความสามารถของแม่โคแต่ละตัวพันธุ์และปัจจัยอื่นอีกแต่โดยทั่วไปจะรีดนมได้ประมาณ  5 - 10  เดือน นมน้ำเหลืองควรจะรีดให้ลูกโคกินจนหมด  ไม่ควรนำส่งเข้าโรงงานเป็นอันขาดและควรให้อาหารแก่แม่โคอย่างเพียงพอเพื่อแม่โคจะได้ไปสร้างน้ำนมและเสริมสร้างร่างกายส่วนอื่น ๆ ที่ยังไม่สมบูรณ์ได้อย่างเพียงพอภายหลังจากคลอดลูก   โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ  30 - 70  วัน หลังจากคลอด  มดลูกจะเริ่มกลับเข้าสู่สภาพปกติแม่โคจะเริ่มเป็นสัดอีก แต่อย่างไรก็ตามเมื่อแม่โคแสดงอาการเป็นสัดภายหลังคลอดน้อยกว่า25วัน  ยังไม่ควรให้ผสม  เพราะมดลูกและอวัยวะต่าง ๆ ในระบบสืบพันธุ์เพิ่งฟื้นตัวใหม่ ๆ ยังไม่เข้าสู่สภาพปกติ   ในทางปฏิบัติส่วนใหญ่ควรจะรอให้เป็นสัดครั้งที่  2  เกิดขึ้นจึงค่อยผสม   ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วจะใช้เวลาประมาณ  45 - 72  วัน หลังจากคลอด

          การคลอดลูก
โดยทั่วไปแม่โคจะตั้งท้องประมาณ  283  วัน  หรือประมาณ  9  เดือนเศษ   ในช่วงนี้แม่โคจะได้การเอาใจใส่ดูแลเรื่องความเป็นอยู่และอาหารเป็นพิเศษ   เพราะลูกในท้องเจริญขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นไปอย่างรวดเร็วในระยะก่อนคลอดประมาณ  45 - 80  วัน ควรเพิ่มอาหารผสมให้แก่แม่โคท้อง  เพื่อแม่โคจะได้นำไปเสริมสร้างร่างกายส่วนที่สึกหรอ   และนำไปเลี้ยงลูก   หรือนำไปสร้างความเจริญเติบโตสำหรับอวัยวะบางอย่างที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่   เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์มากที่สุดและเพื่อไม่ให้แม่โคซูบผอมสำหรับแม่โคที่กำลังให้นม   เมื่อตั้งท้องลูกตัวต่อไปควรจะหยุดรีดนมก่อนคลอดประมาณ  45 - 60  วัน สำหรับแม่โคท้องแรกหรือท้องสาวหรือแม่โคที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ (อายุไม่ถึง 5 ปี)
แม้จะให้ลูกมาแล้ว 1 หรือ 2 ตัวก็ตาม ก่อนคลอดลูกตัวต่อไปควรจะหยุดพักการรีดนมเร็วกว่าแม่โคที่โตเต็มที่แล้ว อย่างน้อยก่อนคลอดประมาณ 45 - 60 วัน เพราะแม่โคได้มีเวลาเตรียมตัวได้พักผ่อนร่างกายและอวัยวะต่างๆบ้างมิฉะนั้นแม่โคอาจจะได้รับผลกระทบกระเทือนนั่นหมายถึงผลเสียหายที่จะตามมาภายหลังได้ เช่น ร่างกายจะชะงักการเติบโตเพราะอาหารไม่พอร่างกายไม่สมบูรณเมื่อคลอดลูกออกมาลูกโคอ่อนแอมีช่วงระยะการให้นมในปีต่อไปสั้นลงผสมติดยากทิ้งช่วงการเป็นสัดนานและอื่นๆ เป็นต้น

          การเลี้ยงดูลูกโค          
ก่อนที่จะพูดถึงการเลี้ยงลูกโคควรจะทำความรู้จักกับนมน้ำเหลืองก่อน นมน้ำเหลือง คือน้ำนมที่ผลิตออกมาจากแม่โคในระยะแรกคลอด จะผลิตออกมานานประมาณ 2-5  วัน ต่อจากนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นนมธรรมดา ลักษณะของนมน้ำเหลือจะมีสีขาวปนเหลืองมีรสขม มีคุณสมบัติคือ จะมีภูมิคุ้มโรค อีกทั้งช่วยป้องกันโรคที่เกิดกับระบบลำไส้และผิวหนัง และยังเป็นยาระยายท้องอ่อนๆ ของลูกโคอีกด้วยมีคุณค่าทางอาหารสูง เมื่อลูกโคคลอดมาใหม่ ๆ ควรแยกลูกโคออกจากแม่โคทันที และควรจะให้กินนมน้ำเหลืองจากแม่โคภายใน ชั่วโมงหลังคลอดเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงเร็ว ลูกโคควรได้กินนมน้ำเหลืองราว 2 - 5 วัน ให้กินวันละ เวลา เช้า,เย็น

                  การป้องกันโรคในโคนม
                โรค เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำความเสียหายให้แก่ผู้เลี้ยงโคนมไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคติดต่อร้ายแรง ซึ่งถ้าเกิดขึ้นกับฟาร์มใดอาจทำให้ถึงกับต้องเลิกล้มกิจการได้ การป้องกันโรคโคนมควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
1. เลี้ยงแต่โคที่แข็งแรงสมบูรณ์และปลอดจากโรค  
2. ให้อาหารที่มีคุณภาพดีและมีจำนวนเพียงพอ  
3. จัดการเลี้ยงดูและป้องกันโรคติดต่อร้ายแรงให้เหมาะสม
           
           อาหารและการให้อาหาร
            โคนมเป็นสัตว์สี่กระเพาะ หรือที่เรียกว่า สัตว์เคี้ยวเอื้อง ซึ่งอาหารที่ใช้เลี้ยงสัตว์ประเภทนี้จะมี 2 ชนิด  คือ อาหารหยาบ  เช่น หญ้า ถั่วอาหารสัตว์ ฟางข้าว และอาหารข้น เช่น อาหารผสมในการให้อาหารแก่โคนม อาหารทั้ง 2 ชนิดจะมีความสำคัญเท่าๆ กันและต้องมีความสัมพันธ์กันเพื่อที่จะทำให้โคนมสามารถให้น้ำนมได้สูงสุดตามความสามารถของโคแต่ละตัวที่จะแสดงออก
                  
                     การรีดนม
                การรีดนมมีอยู่ 2 วิธี  ควรคำนึงถึงและถือปฏิบัติในการรีดนม
1.การรีดนมด้วยมือ
2.การรีดนมด้วยเครื่อง
3.ควรรีดให้สะอาด
4.ควรรีดให้เสร็จโดยเร็ว
5.ควรรีดให้น้ำนมหมดเต้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น