วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ความสนใจในการศึกษาการจัดการความรู้เรื่องวัว

       หลายท่านถามว่า เป็นครูอยู่ดี ๆ ทำไมมาเรียนเรื่องวัว เรื่องการเกษตร  ทำไมไม่เรียนเรื่องการศึกษา
      ก็ขอตอบตามความความรู้ความเข้าใจที่ตัวเองมีว่า
      การศึกษามีอยู่ในทุกสาขาอาชีพ  คนเป็นครูควรมีความรู้ในหลาย ๆ อาชีพ จะได้นำมาสอนหรือแนะนำลูกศิษย์ลูกหาได้หลากหลาย
     โดยเฉพาะความรู้เกี่ยวกับอาชีพการเกษตรที่อยู่คู่กับสังคมไทยเรามายาวนาน ที่สมควรเรียนรู้ให้เข้าใจเพื่อจะได้สอนลูกศิษย์ให้เข้าใจได้ถูกต้องและถูกทิศทาง ว่าสังคมไทยคือสังคมเกษตรที่จะละเลยหรือมองข้ามไปไม่ได้
     ยิ่งในยุคปัจจุบันที่นโยบายเศรษฐกิจพอเพียงกำลังมาแรง  พยายามจะแซงทางโค้งอันตรายที่หลายคนกำลังพยายามทำฝันให้เป็นจริง  และให้เศรษฐกิจพอเพียงปักธงชัยลงในชุมชนทุกชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม
     แต่เศรษฐกิจพอเพียงในความคิดของหลายท่านก็ยังมองเป็นการประกอบอาชีพทางการเกษตรกร และเป็นการเกษตรกรที่เกี่ยวกับปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ (สัตว์เล็ก เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา เป็ด ไก่)  จนเกือบจะลืมวัว ควายที่น่าสงสารไปเสียเกือบหมดเพราะภาพในอดีตทุกคนจะมองเห็น วัว ควาย เป็นสัตว์พาหนะ มากกว่าเป็นอาหาร  วัวควายที่เลี้ยงในปัจจุบันจึงมีน้อย จนแทบจะเลี้ยงโชว์เป็นพิพิธภัณฑ์
     คุณค่าของวัวที่มีต่อสังคมไทยไม่ใช่แค่เป็นอาหาร เป็นสัตว์พาหนะ เป็นสิ่งบันเทิง แต่วัวคือตัวเชื่อมประสานการเกษตรให้เกิดความพอเพียงแก่เกษตกรได้ด้วยการให้ปุ๋ยตามธรรมชาติแก่พืชพรรณนาๆชนิดโดยไม่ทำร้ายมนุษย์และทำร้ายสิ่งแวดล้อมเหมือนปุ๋ยเคมีที่มีอยู่ในปัจจุบัน
     คงจำกันได้ว่า หลักจากที่สังคมไทยได้เปิดประเทศเพื่อทำการค้ากับต่างชาติ โดยเฉพาะชาติตะวันตกตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายเป็นต้นมาและถึงขั้นทำสัญญาผูกมัดอาชีพการเกษตรให้ดิ้นไม่หลุดในสมัยรัชกาลที่ 4  แล้ว  สังคมไทยถูกมัดมือให้ชกกับเศรษฐกิจทุนนิยม ที่มุ่งผลิตสินค้าเกษตรเชิ่งเดี่ยวไปตอบสนองความต้องการของสังคมโลกที่หลากหลายและไม่รู้จักพอ และมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ถ่ายเทมาสู่สังคมไทยมากขึ้นจนทำให้เทคโนโลยีต้นทุนต่ำแต่มีคุณค่ามหาศาลอย่างวัวได้ลดคุณค่าลงไปเหลือไว้แค่เป็นอาหาร
      ที่ร้ายไปกว่านั้นเทคโนโลยีและความเจริญต่าง ๆ  ได้ส่งผลกระทบต่อทรัพยากร ทำร้ายสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่ออาชีพการเกษตร อาชีพเลี้ยงวัวอย่างมากมายมหาศาล  จนทำให้ให้คนที่มีอาชีพเลี้ยงโคลดจำนวนลงไปเรื่อย และคนที่ยังสู้อดทนเลี้ยงทุกวันนี้ก้ยังหวั่นใจ เพราะเลี้ยงโดยอาศัยธรรมชาติเป็นหลัก ซึ่งธรรมชาติก็เอาแน่นอนไม่ได้  ซ้ำร้ายระบบการตลาดยังมาซ้ำเติม ทำให้คนเลี้ยงวัวทั้งหลายยังหาความมั่นคงในอาชีพไม่ได้
      ด้วยวิถีของชีวิตที่คลุกคลีกับการเลี้ยงโคมานาน จึงต้องค้นหาว่าทำไมคนเลี้ยงวัวยังยากจน ทำไมอาชีพนี้ไม่พัฒนาจนถึงขั้นทำให้เษตรกรประสบความสำเร็จสามารถพึ่งตนเองได้ในระดับของตนเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น