ความสนใจในการศึกษาการจัดการความรู้เรื่องวัว
หลายท่านถามว่า เป็นครูอยู่ดี ๆ ทำไมมาเรียนเรื่องวัว เรื่องการเกษตร ทำไมไม่เรียนเรื่องการศึกษา
ก็ขอตอบตามความความรู้ความเข้าใจที่ตัวเองมีว่า
การศึกษามีอยู่ในทุกสาขาอาชีพ คนเป็นครูควรมีความรู้ในหลาย ๆ อาชีพ จะได้นำมาสอนหรือแนะนำลูกศิษย์ลูกหาได้หลากหลาย
โดยเฉพาะความรู้เกี่ยวกับอาชีพการเกษตรที่อยู่คู่กับสังคมไทยเรามายาวนาน ที่สมควรเรียนรู้ให้เข้าใจเพื่อจะได้สอนลูกศิษย์ให้เข้าใจได้ถูกต้องและถูกทิศทาง ว่าสังคมไทยคือสังคมเกษตรที่จะละเลยหรือมองข้ามไปไม่ได้
ยิ่งในยุคปัจจุบันที่นโยบายเศรษฐกิจพอเพียงกำลังมาแรง พยายามจะแซงทางโค้งอันตรายที่หลายคนกำลังพยายามทำฝันให้เป็นจริง และให้เศรษฐกิจพอเพียงปักธงชัยลงในชุมชนทุกชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม
แต่เศรษฐกิจพอเพียงในความคิดของหลายท่านก็ยังมองเป็นการประกอบอาชีพทางการเกษตรกร และเป็นการเกษตรกรที่เกี่ยวกับปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ (สัตว์เล็ก เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา เป็ด ไก่) จนเกือบจะลืมวัว ควายที่น่าสงสารไปเสียเกือบหมดเพราะภาพในอดีตทุกคนจะมองเห็น วัว ควาย เป็นสัตว์พาหนะ มากกว่าเป็นอาหาร วัวควายที่เลี้ยงในปัจจุบันจึงมีน้อย จนแทบจะเลี้ยงโชว์เป็นพิพิธภัณฑ์
คุณค่าของวัวที่มีต่อสังคมไทยไม่ใช่แค่เป็นอาหาร เป็นสัตว์พาหนะ เป็นสิ่งบันเทิง แต่วัวคือตัวเชื่อมประสานการเกษตรให้เกิดความพอเพียงแก่เกษตกรได้ด้วยการให้ปุ๋ยตามธรรมชาติแก่พืชพรรณนาๆชนิดโดยไม่ทำร้ายมนุษย์และทำร้ายสิ่งแวดล้อมเหมือนปุ๋ยเคมีที่มีอยู่ในปัจจุบัน
คงจำกันได้ว่า หลักจากที่สังคมไทยได้เปิดประเทศเพื่อทำการค้ากับต่างชาติ โดยเฉพาะชาติตะวันตกตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายเป็นต้นมาและถึงขั้นทำสัญญาผูกมัดอาชีพการเกษตรให้ดิ้นไม่หลุดในสมัยรัชกาลที่ 4 แล้ว สังคมไทยถูกมัดมือให้ชกกับเศรษฐกิจทุนนิยม ที่มุ่งผลิตสินค้าเกษตรเชิ่งเดี่ยวไปตอบสนองความต้องการของสังคมโลกที่หลากหลายและไม่รู้จักพอ และมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ถ่ายเทมาสู่สังคมไทยมากขึ้นจนทำให้เทคโนโลยีต้นทุนต่ำแต่มีคุณค่ามหาศาลอย่างวัวได้ลดคุณค่าลงไปเหลือไว้แค่เป็นอาหาร
ที่ร้ายไปกว่านั้นเทคโนโลยีและความเจริญต่าง ๆ ได้ส่งผลกระทบต่อทรัพยากร ทำร้ายสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่ออาชีพการเกษตร อาชีพเลี้ยงวัวอย่างมากมายมหาศาล จนทำให้ให้คนที่มีอาชีพเลี้ยงโคลดจำนวนลงไปเรื่อย และคนที่ยังสู้อดทนเลี้ยงทุกวันนี้ก้ยังหวั่นใจ เพราะเลี้ยงโดยอาศัยธรรมชาติเป็นหลัก ซึ่งธรรมชาติก็เอาแน่นอนไม่ได้ ซ้ำร้ายระบบการตลาดยังมาซ้ำเติม ทำให้คนเลี้ยงวัวทั้งหลายยังหาความมั่นคงในอาชีพไม่ได้
ด้วยวิถีของชีวิตที่คลุกคลีกับการเลี้ยงโคมานาน จึงต้องค้นหาว่าทำไมคนเลี้ยงวัวยังยากจน ทำไมอาชีพนี้ไม่พัฒนาจนถึงขั้นทำให้เษตรกรประสบความสำเร็จสามารถพึ่งตนเองได้ในระดับของตนเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น